273 จำนวนผู้เข้าชม |
แบตเตอรี่รถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่
แบตเตอรี่คือ “หัวใจของรถยนต์” เพราะถ้าแบตเสื่อมเมื่อไหร่…
ไม่ว่ารถจะหรูแค่ไหนก็ สตาร์ทไม่ติด!
หลายคนมักรอจนรถดับก่อนค่อยเปลี่ยน ซึ่งเสี่ยงมาก เพราะอาจเกิดกลางทางหรือในสถานการณ์เร่งด่วนได้
1) อายุการใช้งานเกิน 2–3 ปี
โดยทั่วไปแบตรถยนต์มีอายุประมาณ 2–3 ปี
หากรถของคุณใช้งานครบช่วงนี้แล้ว ควรเริ่มเตรียมเปลี่ยนได้เลย
เพราะประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อย ๆ แม้ยังใช้ได้อยู่ก็ตาม
2) สตาร์ทรถช้าลง หรือมีเสียง “ครืด…ครืด…” ยาวกว่าปกติ
หากสตาร์ทรถแล้วรู้สึกว่าเครื่องทำงานช้ากว่าที่เคย
หรือมีเสียงลากยาวก่อนติด นี่คือสัญญาณแรกว่าแบตเริ่มเสื่อม
3) ไฟหน้า–ไฟในรถเริ่มหรี่
ไฟหรี่หรือสว่างไม่เท่ากัน เป็นเพราะแบตจ่ายไฟได้ไม่เต็ม
หากเกิดบ่อย ต้องเช็กแบตทันที!
4) กลิ่นเหม็นไหม้ หรือคราบผุที่ขั้วแบต
บางครั้งแบตเตอรี่ที่เสื่อมจะมีแก๊สระบายออก ทำให้เกิดกลิ่น หรือมีคราบผุเกาะที่ขั้วแบต
ห้ามปล่อยไว้เด็ดขาด เพราะอาจทำให้ระบบไฟฟ้ารถเสียหายได้
5) เครื่องยนต์ดับบ่อยเมื่อเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า
เปิดแอร์ เปิดไฟ เปิดวิทยุพร้อมกันแล้วรอรอบตกหรือเครื่องจะดับ
เป็นสัญญาณว่าแบตจ่ายไฟไม่พอแล้ว
6) ขับทางสั้นบ่อย ๆ หรือไม่ค่อยสตาร์ทรถ
รถที่วิ่งระยะสั้นบ่อย ๆ หรือจอดนานหลายวัน แบตจะเสื่อมเร็วกว่าปกติ
เพราะเครื่องไม่มีเวลา “ประจุไฟกลับเข้าแบต” มากพอ
Tip เพิ่มเติม (สำคัญมาก!)
รถที่แบตเสื่อมจนดับกลางถนน หากเกิดอุบัติเหตุจากการดับเครื่อง หรือไม่สามารถควบคุมรถได้ ประกันบางประเภทอาจไม่คุ้มครอง ดังนั้น ควรดูแลแบตให้พร้อมเสมอ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรหาศูนย์บริการลูกค้า ธีร์ ทำดีแคร์ 0961929698